• ท่อน้ำ PVC สีฟ้า : เป็นท่อในงานระบบประปาที่พบได้บ่อยที่สุด ใช้กับระบบน้ำดี น้ำเสีย การระบาย แต่จะสามารถทนแรงดันน้ำได้มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดที่คุณเลือกใช้ โดยท่อรูปแบบนี้จะรองรับอุณหภูมิได้ประมาณ 65 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการนำไปใช้เป็นท่อที่นำส่งน้ำร้อนจัด 
• ท่อน้ำ PVC สีขาว : หากเป็นระบบประปามีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการทนต่อรังสี UV และความเปียกชื้นได้ดี มักจะนิยมนำไปใช้ในงานท่อสุขภัณฑ์ เพื่อความกลมกลืนและความสวยงามกับพื้นหรือผนัง ทำให้ไม่เป็นที่สะดุดตามาก หรือจะใช้เป็นท่อน้ำทิ้งปฏิกูล แต่หากนำไปใช้ในงานอื่น ๆ มักจะเป็นระบบการร้อยสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ 
• ท่อน้ำ PVC สีเทา : เหมาะสำหรับใช้งานการเกษตรและน้ำที่มีแรงดันต่ำ เช่น การเดินน้ำเพื่อรดน้ำต้นไม้ ระบายน้ำออกหรือการถ่ายน้ำเสียในสวนและในไร่ 
• ท่อน้ำ PPR : หรือท่อที่สังเกตได้จากสี ซึ่งมีสีเขียวนั่นเอง ที่ผลิตจากพลาสติกโพลีโพรไพลีน มีคุณสมบัติที่ทนความร้อนได้มากกว่าท่อ PVC เหมาะสำหรับการนำไปใช้เป็นท่อประปา และท่อน้ำร้อน ซึ่งน้ำร้อนส่วนใหญ่นั้นมักจะมาจากถังน้ำที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันหรือน้ำประปาที่ผ่านการเพิ่มอุณหภูมิจากหม้อต้มน้ำร้อน ดังนั้น การที่น้ำอุณหภูมิสูงจะไหลผ่านท่อน้ำไปยังก๊อกน้ำให้เราใช้ได้โดยที่ท่อไม่เสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็ว จึงจำเป็นต้องใช้ท่อน้ำ PPR นั่นเอง ส่วนใหญ่มักจะนิยมติดตั้งตามรีสอร์ต โรงแรม โรงพยาบาล คอนโด มากกว่าบ้านเรือน 

ข้อควรคำนึงในการเลือกท่อประปา 

1. เลือกท่อประปาให้ถูกประเภทและตรงตามจุดประสงค์ต่อการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อน้ำเสื่อมสภาพเร็ว
2. เลือกขนาดท่อให้เหมาะสมกับอัตราการไหลหรือแรงดันของน้ำ ซึ่งดูได้จากชั้นของท่อ PVC เช่น ท่อพีวีซีชั้น 5 หมายถึง ท่อสามารถทนแรงดันได้ 5 กก.ต่อตารางเซนติเมตร ท่อพีวีซีชั้น 8.5 หมายความว่า ท่อสามารถทนแรงดันได้ 8.5 กก.ต่อตารางเซนติเมตร
3. เลือกท่อประปาที่ได้มาตรฐาน โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ มอก. ที่บ่งบอกถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อรับรองคุณภาพของสินค้าในระหว่างที่นำไปใช้งานได้อย่างไร้กังวล 

ช้อปปิ้งสินค้า ท่อประปา และ ข้อต่อ ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กับไทวัสดุ